รายละเอียดสถานที่
วัดสังฆทานเป็นวัดเก่าแก่ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร แต่เดิมเป็นวัดร้างตั้งอยู่กลางสวนผลไม้ของชาวบ้าน พื้นที่ประมาณไร่เศษ มีเพียงพระพุทธรูปปูนปั้นโบราณ คือหลวงพ่อโต และศาลาไม้เก่าแก่ อย่างไรก็ดีจากการวิเคราะห์ชิ้นส่วนกระเบื้องเชิงชายหน้าอุดของหลังคาอุโบสถหลังเก่าที่ค้นพบ และพุทธลักษณะของหลวงพ่อโต สันนิษฐานอายุได้ ประมาณพุทธศตวรรษที่ 21-22
เมื่อหลวงพ่อสนอง กตปุญโญได้มาพบวัดสังฆทานครั้งแรก ในปี พ.ศ.2511 ท่านได้พิจารณาสถานที่ว่าเหมาะสมแก่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาและปฏิบัติธรรม ท่านได้กลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ. 2517 ในปีต่อมาจึงได้ร่วมกับพระเณรและชาวบ้าน ช่วยกันบูรณะองค์หลวงพ่อโต ในปี พ.ศ. 2536 หลวงพ่อสนองจึงดำริให้รื้อศาลาหลังเดิมที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตออกเพื่อสร้างพระอุโบสถขึ้นแทน และหลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก ได้วางศิลาฤกษ์สร้างพระอุโบสถในวันมาฆบูชา ปี พ.ศ. 2537
สิ่งที่น่าสนใจ
สิ่งที่น่าสนใจในสถานที่แห่งนี้คือ ภายในพระอุโบสถทรงเจดีย์ สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 2 พระองค์ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา พระบรมสารีริกธาตุองค์หนึ่งมีลักษณะพิเศษ ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ค่อยได้พบเห็นง่ายนัก คือองค์พระบรมธาตุเป็นรูพรุนขนาดเล็กทั่วทั้งองค์คล้ายฟองกระดูก ซึ่งทางวัดได้ถ่ายรูปและพิมพ์เป็นภาพขนาดใหญ่แสดงไว้บริเวณสถานที่ประดิษฐาน ทั้ง 2 พระองค์ และในบริเวณเดียวกันมีการจัดสถานที่ประดิษฐานพระอรหันตสาวกธาตุสมัยพุทธกาล และพระธาตุ-อัฐิ ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นไว้อีกหลายองค์
นอกจากนี้ทางวัดยังมีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มอบให้แก่ประชาชนผู้ศรัทธาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงเตรียมบัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ และขึ้นไปรับพระบรมสารีริกธาตุบนศาลาทรงไทยริมน้ำ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่า พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาแจกจ่ายนี้ เป็นส่วนที่เสด็จเพิ่มขึ้นเอง หลวงพ่อสนองจึงอนุญาตให้นำมาแจกจ่ายแก่พุทธศาสนิกชน จำนวนทั้งสิ้น 84,000 องค์
เวลาที่เปิดรับ : |
วันธรรมดา (วันจันทร์ – วันศุกร์) เวลา 12.00 น.- 18.00 น.
วันพระ, (วันเสาร์ – วันอาทิตย์) เวลา 10.00 น. – 18.00 น. |
ลงทะเบียน : |
รับบัตรได้ที่บริเวณ อุโบสถแก้ว วัดสังฆทาน |
หลักฐาน : |
การรับพระบรมสารีริกธาตุ โปรดนำบัตรประชาชนเพื่อนำมาลงทะเบียน |
ภาพสถานที่
วิธีการเดินทาง โทร. 02 496 1240 – 2 FAX 02 496 1243
* รายละเอียดและภาพประกอบจาก www.sanghathandhamma.com *
|
Leave a comment